แบบบ้านที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องอยู่อาศัยร่วมกับคนในครอบครัว และหนึ่งในสมาชิกในบ้านนั้นก็มีผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลมากกว่าคนในวัยอื่น ๆ ทั้งทางสภาพร่างกายและจิตใจ ทางจิตใจเราสามารถดูแลท่านโดยการให้ความรักความเอาใจใส่ ส่วนความต้องการทางร่างกายนั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยอาศัยการออกแบบหรือปรับเปลี่ยนบางส่วนรวมถึงการเลือกใช้วัสดุ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการในด้านต่าง ๆ ให้ท่านสามารถดำรงชีวิตอยู่ภายในบ้านได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข ดังนี้
- ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้ ควรมีความฝืดของผิวสัมผัส กระเบื้องชนิดที่กันลื่นได้ พื้นไม้ไม่ควรขัดให้มีความมันวาวมากนัก เพราะจะลื่นมาก หากเป็นบ้านเก่าที่มีการปูพื้นมาก่อนแล้ว ปัจจุบันนั้นมีน้ำยาที่สามารถฉีดหรือทาเพื่อลดความมันวาวและความลื่นลงได้ ส่วนพื้นพรมก็เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุอาจเดินสะดุดได้ ควรเอาออกหรือหากต้องการคงไว้ก็ต้องติดขอบและมุมของพรมให้แน่น ไม่นูนหรือเปิดขึ้นมาให้เสี่ยงต่อการเดินสะดุดได้
- โต๊ะสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น โต๊ะและอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรเอื้ออำนวยต่อการใช้งานด้วย โดยความสูงของโต๊ะสำหรับการใช้งานของผู้ใช้รถเข็นนั้น ต้องลดะะดับลงมาจากความสูงของโต๊ะปกติเล็กน้อย หน้าโต๊ะควรสูงประมาณ 75 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ใต้โต๊ะควรมีความสูงไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร ไม่ควรมีลิ้นชัก และมีความลึกมากกว่า 40 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเข็นรถเข้าไปใช้งานได้สะดวกนั่นเอง
- ติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ หรือ Emergency Call Bell ไว้บริเวณห้องนอน หัวเตียง ในห้องน้ำ หรือแม้กระทั้งห้องนั่งเล่น และเชื่อมต่อไปยังกริ่งส่งเสียงเตือนที่ติดตั้งในทุก ๆ จุดของบ้าน เพื่อให้เวลาที่เราไม่ได้อยู่ใกล้ผู้สูงอายุ เราก็ยังสามารถได้ยินเสียงกริ่งเมื่อมีการขอความช่วยเหลือ ปัจจุบันมีระบบที่ทันสมัยขึ้น เชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ตและส่งสัญญาณมายังโทรศัพท์ของเราได้ด้วย รวมถึงติดเครื่องตรวจจับไฟไหม้หรือจับควัน เพราะผู้สูงอายุมีความคล่องตัวน้อย หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้เข้าไปให้การช่วยเหลือได้ทันการณ์
- ความสม่ำเสมอของแสงสว่าง เพราะผู้สูงอายุนั้นจะมีสายตาที่ตอบรับกับแสงสว่างช้ากว่าคนหนุ่มสาว การปรับสายตาระหว่างพื้นที่สว่างกับพื้นที่มืดจึงเป็นไปได้ไม่ดีนัก ฉะนั้นภายในบ้านควรมีแสงสว่างที่สม่ำเสมอ กล่าวคือ ระหว่างห้อง ระหว่างภายในและภายนอก ควรมีการให้ความสว่างที่ใกล้เคียงกัน และค่อยๆ ปรับความสว่างเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ประตูต้องกว้างกว่าปกติ บานประตูทั่วไปจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 70 เซนติเมตร แต่สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุและใช้รถเข็น บานประตูต้องมีความกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร
- ประตูบานเลื่อนสะดวกกว่า นอกจากประตูบานเลื่อนจะประหยัดพื้นที่ในการใช้งานมากกว่าบานเปิดแล้ว สำหรับผู้สูงอายุไม่ว่าจะอยู่บนรถเข็นหรือไม่ จะสามารถเปิดประตูบานเลื่อนได้สะดวกและปลอดภัยกว่า
- ติดตั้งราวจับ ควรต้องติดราวจับในระดับ 80 – 90 เซนติเมตร ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงโถส้วมหรือจุดอาบน้ำ เพื่อให้ยึดจับแทนการไปจับหรือเหนี่ยวอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น อ่างล้างหน้า ราวแขนผ้า ที่ใส่สบู่ หรือโถส้วมเพราะสุขภัณฑ์เหล่านี้อาจหลุดออกมาและเป็นอันตรายได้ โดยตัวราวจับและสกรูยึดติดผนัง ก็ควรที่จะต้องรับน้ำหนักเหนี่ยวตัวลุกยืนได้สูงเช่นกัน
- สวิตช์ไฟต้องใหญ่ชัดเจน ลักษณะของสวิตช์ไฟที่ควรจะเป็นคือต้องมีขนาดใหญ่ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน มีสีขาวและเรืองแสงได้ในที่มืด ตำแหน่งอยู่สูงจากพื้นในระยะที่ผู้ที่นั่งรถเข็นสามารถใช้งานได้สะดวก อีกทั้งควรรวมแผงสวิตช์พัดลม แอร์ หรือระบบต่าง ๆ ไว้ในตำแหน่งเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เช่น ที่หัวเตียง เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงพื้นต่างระดับ แน่นอนว่าพื้นต่างระดับ ทำความลำบากกับผู้สูงอายุทั้งการเดินและการใช้รถเข็น หากจำเป็นต้องทำพื้นที่ต่างระดับ ต้องทำทางลาดควบคู่กันไปในทุกตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนระดับ ความลาดชันของทางลาดต้องไม่เกิน 1 : 12 ตัวอย่างเช่น พื้นต่างระดับ 1 เมตร ต้องมีทางลาดยาว 12 เมตร เป็นต้น
- เก้าอี้ทุกตัวควรมีที่พักหรือที่ท้าวแขน เพราะนอกจากจะสร้างความสบายในการนั่งของผู้สูงอายุแล้ว ในเวลาที่ต้องการจะยืน ที่พักแขนนี้จะเป็นส่วนช่วยพยุงให้ผู้สูงอายุสามารถยืนได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น
Tags